Author Topic: ศธ.ยอมตั้ง76เขตพื้นที่ดูแลเฉพาะมัธยมฯ  (Read 12057 times)

ครูประสิทธิ์

  • Administrator
  • Full Member
  • *****
  • Posts: 128
    • View Profile
ศธ.ยอมตั้ง76เขตพื้นที่ดูแลเฉพาะมัธยมฯ

      ตามที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เห็นชอบการจัดตั้งสำนักมัธยมศึกษาตอนปลาย ขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับการบริหารงานมัธยมศึกษา นั้น นายยงยุทธ ทิพรส ประธานสมาพันธ์ครูมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดตั้งสำนัก ม.ปลาย ไม่ใช่ความต้องการของชาวมัธยมศึกษา ซึ่งไม่เคยมีข้อเสนอนี้มาก่อนจึงไม่สามารถยอมรับได้ ทางสมาพันธ์จึงได้ร่วมกับ สมาคมโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) สมาคมรองผู้อำนวยการการโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย สมาพันธ์ศึกษานิเทศก์กรมสามัญศึกษา สมาพันธ์โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ออกแถลง การณ์เรียกร้องให้ศธ.จัดตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการมัธยมศึกษา จังหวัดละ 1 เขต รวม 76 เขต เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับมัธยมศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น
 
นายยงยุทธ กล่าวว่า ทุกสมาพันธ์ฯได้ส่งตัวแทนเข้าพบนายสมชาย และคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อยื่นข้อเสนอดังกล่าวในวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งภายหลังการหารือกว่า 1 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่า ศธ.จะมีการจัดตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา 76 เขต ตามข้อเสนอ โดยจะนำเข้าสู่การประชุมของสภาการศึกษา (สกศ.) ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ รวมถึงการประชุม สกศ.ครั้งต่อ ๆ ไป หากมีเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างของ ศธ.จะต้องมีผู้แทนจากฝ่ายการมัธยมศึกษาเข้าร่วมประชุมด้วย ทุกครั้ง
 
นายวิทธยา บริบูรณ์ทรัพย์ นายก ส.บ.ม.ท. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 51 คุณหญิงกษมา เคยมีหนังสือมาถึงตนโดยแจ้งให้ทราบว่า สพฐ.ได้เสนอแนวทางการปรับโครงสร้างเป็น 2 แนวทาง ได้แก่ 1.ปรับปรุงสำนักงานในส่วนกลาง ไม่เพิ่มเขตการศึกษา คือ ให้มีสำนักรับผิดชอบงานการมัธยมศึกษาในส่วนกลาง และมีกลุ่มงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รับผิดชอบการมัธยมศึกษา ส่วนการบริหารงานบุคคล การแต่งตั้งโยกย้าย ผู้บริหารให้อ.ก.ค.ศ.ส่วนกลางดูแลเพื่อให้มีการโยกย้ายได้ทั่วประเทศ และ 2.ปรับปรุงสำนักงานในส่วนกลางและจัดตั้งเขตพื้นที่การศึกษาเพิ่ม 76 จังหวัด ซึ่งเป็นแนวทางชาวมัธยมศึกษาพอจะยอมรับได้ แต่อยู่ ๆ สพฐ.กลับมาเสนอจัดตั้งสำนัก ม.ปลาย ขึ้นมาทำให้ต้องมีการรวมตัวเพื่อเรียกร้องกันอีกครั้ง เพื่อให้การบริหารจัดการ การบริหารงบประมาณ การบริหารงานวิชาการ และการบริหารงานบุคคลด้านการมัธยมศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศ ส่วนที่มีข่าวว่ามีการล่ารายชื่อครูโรงเรียนมัธยมศึกษาเพื่อปลดคุณหญิงกษมา นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและจะไม่มีโดยเด็ดขาด เพราะเราคุยกันด้วยเหตุผล หากจะมีก็คงเป็นมือที่สาม
 
ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า จากการหารือดังกล่าวทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันแล้ว และจะนำเข้าที่ประชุม สกศ. เพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 11 ก.ค.ว่า จะมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้าง.
 
---------------------------------
ที่มา

วันที่ 11 กรกฎาคม 2551 เวลา 08:21 น

ครูประสิทธิ์

  • Administrator
  • Full Member
  • *****
  • Posts: 128
    • View Profile
นางสิริพร บุญญานันท์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับผู้แทนสมาพันธ์ครูมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ถึงข้อเสนอการจัดตั้งสำนักงานเขตพื้นที่(สพท.)การมัธยมศึกษา 76 เขต เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ทางสมาพันธ์ครูมัธยมฯ ได้เข้าชี้แจงถึงปัญหาและเหตุผลที่จะให้มีการจัดตั้ง สพท.การมัธยมศึกษา แต่เนื่องจากยังมีข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงได้ให้ไปทำรายละเอียดถึงเหตุผล ความจำเป็นในการจัดตั้ง สพท.การมัธยมศึกษา เพื่อเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาและนำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการ สกศ.ในวันที่ 23 ก.ค.นี้

"การพิจารณาจะต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจนว่า แต่ละเขตพื้นที่ฯ จะบริหารจัดการอย่างไร มีประชากร โรงเรียนเท่าใด ซึ่งถ้ามีข้อมูลชัดเจน สกศ.ก็พร้อมพิจารณา อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ รมว.ศึกษาธิการ มีความเป็นห่วง และอยากให้เรื่องนี้พิจารณากันด้วยความรอบคอบว่าจะแก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้กลายเป็นการไปสร้างปัญหาขึ้นใหม่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญ และกระทบกับคุณภาพชีวิตครูและนักเรียน" นางสิริพร กล่าว

ด้านนายยงยุทธ ทิพรส ผอ.โรงเรียนเลยอนุกูลวิทยา ในฐานะประธานสมาพันธ์ครูมัธยมฯ กล่าวว่า สพฐ. และสมาพันธ์ครูมัธยมฯ ต้องร่วมกันร่างโครงสร้าง สพท.การมัธยมศึกษา ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ก.ค. เพื่อเสนอ รมว.ศึกษาธิการ เห็นชอบก่อนนำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการ สกศ. โดยขณะนี้กำลังดูเรื่องข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแนวโน้มน่าจะเป็นไปตามที่ได้เสนอไว้ และคงไม่เกิดปัญหายื้อเวลาเหมือนที่ผ่านมา


ที่มา - สยามรัฐ วันที่ 13 กรกฎาคม 2551