สพฐ.เตรียมชง “ ชินวรณ์ “ ฉีกนโยบายเลื่อนชั้น นร.ม.3 ขึ้น ม.4 โดยอัตโนมัติทิ้ง หันสู่ระบบเดิมที่ใช้คะแนนผลการเรียนเป็นตัวคัดกรองเด็ก พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กนอกมาคัดเลือกเข้าได้
(9พ.ย.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมทำข้อมูลเสนอนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ทบทวนนโยบายรับนักเรียน ม.3 ขึ้น ม.4ซึ่งปีที่ผ่านมา สพฐ.เพิ่งปรับเปลี่ยนมาใช้นโยบายให้สถานศึกษารับนักเรียน ม.3 เดิมเลื่อนขึ้น ม.4 โดยอัตโนมัติโดยไม่มีการพิจารณาผลการเรียน เมื่อรับนักเรียน ม.3 เดิมเรียบร้อยแล้วมีที่นั่งว่างจึงให้รับนักเรียนจากภายนอกได้
อย่างไรก็ตาม สพฐ.ต้องการเปิดโอกาสให้นักเรียนโรงเรียนอื่นได้มีโอกาสเข้าเรียนในโรงเรียน ดังบ้างในจำนวนที่เหมาะสม รวมถึง ต้องการให้มีระบบคัดกรองศักยภาพนักเรียนก่อนรับขึ้น ม.4 การ รับโดยอัตโนมัตินั้น ทำให้เกิดปัญหาเด็กออกกลางคันตามมาเพราะเด็กบางรายไม่มีศักยภาพพอ หรือถึงเรียนได้ก็มีปัญหาผลการเรียนต่ำ จึงเห็นว่า น่าจะปรับเปลี่ยนนโยบายรับนักเรียน ม.4 อีกครั้ง กลับไปใช้ระบบเดิมในอดีตที่มีการคัดกรองศัยภาพเด็กก่อนรับขึ้น ม.4 โดยพิจารณาที่ผลการเรียนต้องได้ไม่ต่ำกว่า 2.00
“ สพฐ.ไม่สามารถฟันธงในเรื่องนี้ได้ ต้องสรุปข้อมูลผลการรับนักเรียน ม.4 ของ ปีที่ผ่านมา เสนอให้ รมว.ศธ.ทราบภาพรวมทั้งหมด แล้วให้ รมว.ศธ.เป็นผู้ตัดสินใจ แต่ สพฐ.เองก็ได้รับเสียงสะท้อนจาก ร.ร.เข้ามามาก ขอให้มีการคัดกรองเด็กก่อนรับขึ้น ม.4 “ นายชินภัทร กล่าว
เลขา กพฐ. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น สพฐ.กำลังอยู่ระหว่างจัดทำเกณฑ์รับนักเรียนของโรงเรียนมัธยมดี เด่น ดัง ซึ่งมีประมาณ 360 โรงทั่วประเทศอยู่ โดยหลักการแล้ว สพฐ.ต้องการเปิดให้โรงเรียนกลุ่มนี้ที่มีความพร้อมเพียงพอ สามารถเปิดหลักสูตรพิเศษที่ตรงกับศักยภาพของโรงเรียนได้ เพื่อให้แต่ละโรงเรียนเดินไปสู่ความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆที่ตัวเองถนัดเช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ
เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องผ่อนคลายกฎ ระเบียบต่าง ๆ และผ่อนผันการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ให้สถานศึกษาเป็นผู้ดำเนินการเอง รวมทั้งเรื่องการรับนักเรียนด้วย อย่างไรก็ตาม เกณฑ์ของโรงเรียนดีเด่นดัง อาจจัดทำไม่เสร็จทันการรับนักเรียนปี 2554 ส่วนนโยบายรับนักเรียนของ ร.ร.ทั่วไป นั้น น่าจะใช้สูตรเดิมไม่มีการปรับเปลี่ยนมาก แต่เน้นให้นักเรียนเรียนร.ร.ใกล้บ้านมากขึ้น
ที่มา - คมชัดลึก