Author Topic: Wireless กับ WiFi ต่างกันอย่างไร  (Read 13993 times)

ครูประสิทธิ์

  • Administrator
  • Full Member
  • *****
  • Posts: 128
    • View Profile
Wireless กับ WiFi ต่างกันอย่างไร



Wireless แปลตรงตัวก็คือ ไร้สาย ถ้าในการสื่อสารก็คือ การสื่อสารไร้สาย นั่นเอง

Wi-Fi เป็นมาตรฐานหนึ่งของการสื่อสารไร้สายครับ
เอาที่มาคำว่า wi-fi ดีกว่า  อ่านเล่นๆ
จากอดีต
ก่อนที่เราจะมาพูดถึงว่า Wi-Fi มันคืออะไรนั้น เราลองมาทำความเข้าใจกัน เล็กๆน้อยเกี่ยวกับเรื่องระบบ Network สักนิด การที่ คอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง จะมาเชื่อมต่อกัน เพื่อประโยชน์ในการแชร์ ข้อมูลซึ่งกันและกัน หรือเอามาแชร์ Internet เพื่อใช้งาน แบบประมาณว่า ต่อ Internet เพียงแค่เครื่องเดียว เครื่องอื่นๆที่อยู่ในเครือข่ายก็สามารถใช้งาน Internet ได้ด้วย ซึ่งการต่อเชื่อม คอมพิวเตอร์ หลายๆเครื่องเข้าด้วยกันนี้ แต่เดิมนั้นเราจะใช้สาย Lan ต่อเข้ากับ Lan card ของเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่องเพื่อจะเชื่อมเข้าหา ซึ่งการต่อแบบใช้สายนี้ มันมีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก แต่จะยุ่งยากหน่อย ก็ตรงที่ในบ้านเรา หรือใน office ที่เราจะเชื่อมต่อนั้น จะต้องเรียกช่างมาเดินสาย Lan เหมือนกับเดินสายไฟ ภายในบ้าน ซึ่งมันก็วุ่นมากทีเดียว หากเป็นบ้านที่มีคนอยู่แล้ว ต้องมานั่งรื้อข้าวของ ให้วุ่นวายกันไปหมด
 
ถึงปัจจุบัน
เหมือนกับว่าพระเจ้าเห็นใจ ผู้รักเทคโนโลยี จึงทำให้มีผู้คิดค้นวิธีเชื่อมต่อ Lan แบบใหม่ขึ้นมา โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงสาย ให้มันวุ่นวาย แต่คราวนี้เราจะใช้คลื่นเชื่อมแทน ฟังแค่นี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นมาแล้วใช่ไหม .. ด้วยระบบเทคโนโลยี Lan ไร้สาย 802.11 จึงเกิดขึ้นมาบนโลกเบี้ยวๆใบนี้ โดยการพัฒนา จากสถาบันวิศวกรไฟฟ้า และ อิเลคโทรนิค หรือ Institute of Electrical and Electronics Engineering (IEEE) นั่นเอง เลยทำให้กลายเป็นศัพท์ใหม่ที่เห็นกันบ่อยๆว่า IEEE 802.11 ซึ่งก็ได้มีการพัฒนากันมาเรื่อยจาก 802.11 ธรรมดามาเป็น 802.11b 802.11a 802.11g ซึ่งมันจะต่างกัน เรื่องของความเร็วในการรับส่งข้อมูลเป็นหลัก ( เดี๋ยวค่อยมาเล่าต่ออีกทีว่ามันต่างกันอย่างไร )
 


WIFI คืออะไร
 
Wi-Fi ก็คือองค์กรหนึ่ง ที่ทดสอบผลิตภัณฑ์ Wireless Lan หรือระบบ Network แบบไร้สาย ภายใต้เทคโนโลยีการสื่อสาร ภายใต้มาตราฐาน IEEE 802.11 ว่าอุปกรณ์ทุกตัวซึ่งต่างยี่ห้อกันนั้นมันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่มีปัญหา หากว่าอุปกรณ์ตัวนั้นมันผ่านตามมาตราฐานเขาก็จะปั๊ม ตรา Wi-Fi certified ซึ่งเป็นอันรู้กันว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่มีตรา Wi-Fi  certified นี้ได้เช่นกัน แต่ทำไปทำมามันกลายเป็นคำศัพท์สำหรับ อุปกรณ์ Lan ไร้สาย ไปโดยปริยาย จนบางคนก็เรียกกันติดปาก

เช่น Notebook ตัวนี้ หรือ PDA ตัวนี้มันมี Wi-Fi  ด้วยหละ ! นั่นก็หมายความว่า อุปกรณ์ชิ้นนั้น มันสามารถติดต่อสื่อสารกับเครื่องตัวอื่นในระบบ Network แบบไร้สายได้ โดยอยู่ภายใต้ มาตราฐานเทคโนโลยี 802.11

แล้วเลข 802.11 มันคืออะไร …… เชื่อว่ามันต้องเป็นคำถาม ต่อมาอย่างแน่นอน สำหรับเลข 802.11 นั้นก็เป็น เทคโนโลยีมาตราฐาน แบบเปิดซึ่งกำหนดโดย Institute of Electrical and Electronics Engineering (IEEE) โดยเลขหลักตัวหน้า มันจะเหมือนๆกัน แต่ความแตกต่างของเทคโนโลยี จะกำหนดด้วยตัวอักษรด้านหลัง เช่น 802.11b 802.11a 802.11g
 
แล้ว WiFi กับ Bluetooth มันเหมือนกันไหม ? 
ขอบอกว่า 2 อย่างนี้มันคล้ายๆกัน ถึงแม้ว่า Bluetooth กับ Wi-Fi มันจะเป็นการติดต่อ เพื่อสร้างระบบ Network เล็กๆ โดยการเชื่อมโยงอุปกรณ์ ตั้งแต่สองตัวเข้าหากัน แต่การใช้งานของ Bluetooth กับ Wi-Fi  นั้นมันต่างกันมากถึงว่า เทคโนโลยีของ Bluetooth กับ Wi-Fi มันจะใช้ความถี่คลื่นเดียวกันที่ 2.4 GHz และ Bluetooth กับ Wi-Fi มันก็ไม่สามารถ ใช้งานร่วมกันได้

Bluetooth เป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ สองตัวเข้าหากัน ด้วยความถี่คลื่นที่ 2.4 GHz ซึ่งมีระยะการทำงาน ที่สั้นมากคือได้ประมาณ 30 ฟุตเป็นอย่างมากในที่โล่ง จุดประสงค์ที่เขาสร้าง Bluetooth ขึ้นมาก็เพื่อมาแทนที่สายไฟ ที่ระเกะระกะ ในการเชื่อมโยงอุปกรณ์ สองตัวเข้าหากัน เช่น Palm กับ โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์มือถือ กับ Small talk ข้อจำกัดของ Bluetooth นอกจากเรื่องของระยะทางที่สั้น แล้วเรื่องของความเร็ว ในการรับส่งข้อมูลก็ยังต่ำกว่า Wi-Fi อีกด้วย หากเอามาใช้งาน การส่งข้อมูลไม่มาก เช่น เอามาใช้ Hotsync กับเครื่อง Palm หรือ Beam file จากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่อง เท่านี้ คงจะไม่รู้สึกเท่าไร แต่หากจะเอา PC สองตัวมาทำระบบ Network โดยใช้ Bluetooth หละก็จะเห็นถึงความอืด อย่างชัดเจน อย่างที่ผมเคยทดสอบมา โอนไฟล์จาก PC เครื่องหนึ่งไปยัง อีกเครื่องหนึ่ง รอกันเบื่อกันไปข้างเลยครับ สรุปง่ายๆก็คือว่า Bluetooth เหมาะสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Device เล็กเข้ากัน ด้วยระยะทางเพียงสั้นๆ เพื่อสร้าง Network แบบกระจุ๋มกระจิ๋ม ส่วนตัว ที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า PAN ( Personal area network )

 Wi-Fi  เป็นการสื่อสารด้วยเทคโนโลยี 802.11 ซึ่งมีข้อดีก็คือ มันสามารถส่งข้อมูลแบบไร้สายได้รวดเร็ว ดังนั้น มันจึงเหมาะที่จะนำมาสร้าง เครือข่ายไร้สายสำหรับการเชื่อมคอมพิวเตอร์ เข้าหากัน หรืออาจจะเอา PDA มาเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ก็ยังได้หาก PDA รุ่นนั้นๆมัน สนับสนุน Wi-Fi ข้อดีอีกหลายข้อของ เทคโนโลยี 802.11 ก็พอจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ดังต่อไปนี้ครับ การทำงานสามารถสื่อสารได้ไกลกว่าการใช้ Bluetooth , เป็นที่นิยมมากกว่า และมันคือระบบ ที่มีการทำงานคล้ายกับระบบ Network แบบมีสายมากที่สุด โดยเฉพาะ เทคโนโลยี 802.11b ซึ่งมีความเร็ว 11 Mb/s อันนี้จะนิยมมากที่สุด แต่ในอนาคต ก็คงจะมีการพัฒนาให้มันส่งข้อมูลได้เร็วมากขึ้นไปอีก