ฟรีแค่5รายการ เรียนฟรี15ปี เรียก50ผอ.เคลียร์
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา
20 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมเรดิสัน ผู้ปกครองร้องเรียนผ่านสายด่วน 1579 ว่า 50 โรงเรียนดัง กทม. เรียกเก็บเงิน รมว.ศึกษาธิการ ยันไม่มีทบทวนเรื่องชื่อโครงการใหม่ เนื่องจากได้ประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว
นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าววันนี้ (19 พ.ค.) ถึงโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวใกล้จะปิดดำเนินงานแล้ว สพฐ.ได้ส่งทีมงานออกไปติดตามและประเมินผลรอบที่ 2 ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ไม่พบปัญหาอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ก็ยังมีผู้ปกครองบางส่วนที่มีข้อสงสัยว่าในเมื่อมีการจัดนโยบายเรียนฟรี แล้วแต่ยังมีโรงเรียนบางแห่งเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง จากการดูข้อมูลของโรงเรียนที่เรียกเก็บเงินแล้วพบว่า ส่วนใหญ่เรียกเก็บภายในกรอบและหลักเกณฑ์ที่ สพฐ. ได้ประกาศไว้ แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการ กพฐ. ได้ให้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีผู้ปกครองร้องเรียนเข้ามาในสายด่วน 1579 ว่า เก็บเงินประมาณ 50 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนดังในเขตกรุงเทพมหานคร ( กทม.) มาประชุมร่วมกัน ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมเรดิสันเพื่อหารือถึงข้อร้องเรียนในการเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง
ผู้อำนวยการ สพฐ. กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนเห็นว่าอาจเกิดจากการสื่อสารที่เข้าใจไม่ตรงกัน ทั้งนี้โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ได้รับการยืนยันจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้วว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้ตั้งงบประมาณไว้แล้วในปีงบประมาณ 2553เพื่อ ให้การอุดหนุนแล้ว
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวกรณีมีประชาชนโทรศัพท์ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1579 ในวันแรกของการเปิดภาคเรียน จำนวนมากกว่า 1,500 ราย โดยระบุว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถทำให้นโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพของรัฐบาลฟรีจริงได้ ว่า ประชาชนที่ร้องเรียนเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นการสอบถามหลักเกณฑ์ที่โรงเรียนจะเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มได้มากกว่า ที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงมาตลอดว่าโครงการนี้ฟรีเฉพาะ 5 รายการ ไม่ใช่ฟรีทั้งหมด สังคมก็เข้าใจดี ดังนั้นจะไม่มีทบทวนเรื่องชื่อโครงการใหม่ เนื่องจากได้ประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว และคงจะไม่ไปห้ามโรงเรียนเก็บเพิ่มด้วย เพราะอาจเป็นดาบสองคมที่ส่งผลต่อการพัฒนาของโรงเรียนและนักเรียนได้ ส่วนเรื่องเรียกรับเงินแลกกับสิทธิที่นั่งเรียน เรื่องนี้ผิดทั้งวินัยและกฎหมายอาญา ถ้าพบเบาะแสขอให้ร้องเรียนมา กระทรวงศึกษาธิการพร้อมตรวจสอบและจะลงโทษขั้นเด็ดขาด
ที่มา
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2552