Author Topic: ยกเลิกใช้คำว่า"เรียนฟรี"ดีไหม  (Read 11554 times)

ครูประสิทธิ์

  • Administrator
  • Full Member
  • *****
  • Posts: 128
    • View Profile
ยกเลิกใช้คำว่า"เรียนฟรี"ดีไหม

ตั้งแต่เปิดการศึกษาใหม่ปี 2552 เป็นต้นมา ปัญหาความไม่เข้าใจเรื่องการ “เรียนฟรี” ของรัฐบาลที่ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบกันทั่วประเทศ ได้มีการร้องเรียนไปถึงรัฐบาลเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับที่โรงเรียนต่าง ๆ ได้เรียกเก็บเงินเพิ่มเติมอีก ทำให้มีความสงสัยเรื่องการเรียนฟรีนั้นไม่ได้ฟรีจริงอย่างที่ได้เข้าใจกัน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้มีการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า “เรียนฟรี” นั้นคืออะไร เพราะคำว่าเรียนฟรีทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ว่าเรียนฟรีทุกอย่างไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย รัฐบาลเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงนั้นผู้ปกครองยังต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก

เรื่องการเรียนฟรีนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายก รัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวย้ำอยู่ตลอดว่า เป็นโครงการช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของผู้ปกครอง ในเรื่องค่าหนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน และกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ซึ่งฟังอย่างเข้าใจก็คงมีความเข้าใจว่ารัฐบาลได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายของรายการที่รัฐบาลได้กำหนดเอาไว้ มิใช่ฟรีทั้งหมด เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่ผู้ปกครองจะต้องมีอะไรที่เต็มใจจะเสียเพิ่มในบางเรื่องบางรายการที่ตนเองสมัครใจ โดยเฉพาะการเรียน เสริมพิเศษเพิ่มเติมในตอนเย็นหรือวันเสาร์ ถ้าผู้ปกครองคนใดต้องการให้ลูกของตนเรียนก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอย่างแน่นอน

ล่าสุด คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขา ธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ออกมาพูดให้มีความเข้าใจยิ่งขึ้นว่านโยบายเรียนฟรีนั้น มิใช่ทุกอย่างฟรีหมด ทางโรงเรียนสามารถเก็บเพิ่มได้ แต่ไม่ใช่ไปเก็บซ้ำซ้อนกับรายการที่ทางรัฐบาลได้กำหนดรายการต่าง ๆ ที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง เพราะยังมีอีกหลายรายการที่โรงเรียน ต่าง ๆ จำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนจากผู้ปกครองด้วยความสมัครใจ คำ ชี้แจงดังกล่าวนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนทุกแห่งในเรื่องขอความสนับสนุนจากผู้ปกครอง ถ้าผู้ปกครองเข้าใจโรงเรียน และโรงเรียนเข้าใจผู้ปกครองที่ไม่เป็นการบังคับต้องจ่ายเพิ่ม ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น

เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลควรยกเลิกคำว่า “เรียนฟรี” ส่วนจะใช้คำอะไรก็แล้วแต่รัฐบาลจะคิดคำหรู ๆ ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากนโยบายนี้เป็นเพียงช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครองเท่านั้น สำหรับเงินที่รัฐบาลให้แก่ผู้ปกครองเพื่อนำไปซื้อชุดนักเรียนก็เป็นการแบ่งเบาภาระได้ส่วนหนึ่ง เพราะเงินที่ให้นั้นซื้อเสื้อกับกระโปรงได้เพียง 2 ชุด ยังไม่พอที่จะซื้อรองเท้านักเรียน ถุงเท้า กระเป๋า เข็มขัดด้วยซ้ำไป แม้กระทั่งเสื้อพละ ชุดลูกเสือ ชุดยุวกาชาด ชุดเนตรนารี ซึ่งแน่นอนผู้ปกครองก็ต้องควักเงินซื้อเพิ่มเติมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำว่าเรียนฟรีฟังดูแล้วรู้สึกดี แต่ความจริงไม่ได้ดีอย่างที่คิด ถ้าเปลี่ยนไปใช้คำอย่างอื่นแทน ปัญหาความเข้าใจผิดก็จะหมดไปอย่างแน่นอน.



ที่มา
วันที่ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 09:07 น.

ครูประสิทธิ์

  • Administrator
  • Full Member
  • *****
  • Posts: 128
    • View Profile
ฟรีแค่5รายการ เรียนฟรี15ปี เรียก50ผอ.เคลียร์


คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา

20 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมเรดิสัน ผู้ปกครองร้องเรียนผ่านสายด่วน 1579 ว่า  50 โรงเรียนดัง  กทม.  เรียกเก็บเงิน  รมว.ศึกษาธิการ ยันไม่มีทบทวนเรื่องชื่อโครงการใหม่ เนื่องจากได้ประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว

นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าววันนี้ (19 พ.ค.) ถึงโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวใกล้จะปิดดำเนินงานแล้ว สพฐ.ได้ส่งทีมงานออกไปติดตามและประเมินผลรอบที่ 2 ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ไม่พบปัญหาอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ก็ยังมีผู้ปกครองบางส่วนที่มีข้อสงสัยว่าในเมื่อมีการจัดนโยบายเรียนฟรี แล้วแต่ยังมีโรงเรียนบางแห่งเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง  จากการดูข้อมูลของโรงเรียนที่เรียกเก็บเงินแล้วพบว่า ส่วนใหญ่เรียกเก็บภายในกรอบและหลักเกณฑ์ที่ สพฐ. ได้ประกาศไว้ แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการ กพฐ. ได้ให้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีผู้ปกครองร้องเรียนเข้ามาในสายด่วน 1579 ว่า เก็บเงินประมาณ 50 แห่ง  ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนดังในเขตกรุงเทพมหานคร ( กทม.) มาประชุมร่วมกัน ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมเรดิสันเพื่อหารือถึงข้อร้องเรียนในการเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง

ผู้อำนวยการ สพฐ. กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนเห็นว่าอาจเกิดจากการสื่อสารที่เข้าใจไม่ตรงกัน ทั้งนี้โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ได้รับการยืนยันจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้วว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  ได้ตั้งงบประมาณไว้แล้วในปีงบประมาณ  2553เพื่อ ให้การอุดหนุนแล้ว

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวกรณีมีประชาชนโทรศัพท์ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1579 ในวันแรกของการเปิดภาคเรียน จำนวนมากกว่า 1,500 ราย โดยระบุว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถทำให้นโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพของรัฐบาลฟรีจริงได้ ว่า ประชาชนที่ร้องเรียนเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นการสอบถามหลักเกณฑ์ที่โรงเรียนจะเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มได้มากกว่า  ที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงมาตลอดว่าโครงการนี้ฟรีเฉพาะ 5 รายการ ไม่ใช่ฟรีทั้งหมด  สังคมก็เข้าใจดี ดังนั้นจะไม่มีทบทวนเรื่องชื่อโครงการใหม่ เนื่องจากได้ประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว และคงจะไม่ไปห้ามโรงเรียนเก็บเพิ่มด้วย เพราะอาจเป็นดาบสองคมที่ส่งผลต่อการพัฒนาของโรงเรียนและนักเรียนได้ ส่วนเรื่องเรียกรับเงินแลกกับสิทธิที่นั่งเรียน เรื่องนี้ผิดทั้งวินัยและกฎหมายอาญา ถ้าพบเบาะแสขอให้ร้องเรียนมา กระทรวงศึกษาธิการพร้อมตรวจสอบและจะลงโทษขั้นเด็ดขาด



ที่มา
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2552