หน่วยที่ 4
: วัยรุ่ยุคสดใส ห่งไกล สารเสพติดและความรุนแรง
วัยรุ่ยุคสดใส ห่งไกล สารเสพติดและความรุนแรง
![]() ![]() |
สารเสพติด หมายถึงสารเคมีหรือวัตถุชนิดใดๆก็ตามเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยการรับประทานดมสูบฉีด
หรือด้วยวิธีใดก็ตามติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้คนๆนั้นหยุดเสพได้ลำบากจะหยุดก็มีอาการถอนยา
ต้องการเสพมากขึ้นเรื่อยๆทำให้มีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจและสังคมของผู้นั้น ประเภทของสารเสพติด
๑. สารเสพติดถูกกฎหมาย ได้แก่ บุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น สุรา ยาดองเหล้า เบียร์ ไวน์ แช่มเปญ บุหรี่ เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าสารเสพติดประเภทนี้ มีผู้เสพมากที่สุดและส่งผลกระทบมากที่สุด ทั้งต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ ครอบครัว และสังคมในวงกว้าง เช่น ผู้ดื่มสุราแล้วไปขับขี่ยานพาหนะ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ มีผู้คนตาย บาดเจ็บ ทุพพลภาพ ทรัพย์สินเสียหายจนรัฐต้องออกมารณรงค์ “ โครงการเมาไม่ขับ ”
๒. สารเสพติดผิดกฎหมาย ได้แก่ เฮโรอีน ฝิ่น กัญชา ใบกระท่อม เห็ดขี้ควาย และยาบ้า สำหรับยาบ้านั้นเพิ่ง จะมีการจัดประเภทใหม่ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๓๕ (พ.ศ.๒๕๓๙) ให้เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เช่นเดียวกับเฮโรอีน (ผงขาว) สารเสพติดผิดกฎหมาย ดังกล่าวเป็นปัญหาต่อสังคมโลกโดยเฉพาะยาบ้าเป็นปัญหารุนแรงในสังคมไทยเรา
ผลกระทบเมื่อเสพสารเสพติด
๑. ทำให้ผู้เสพมีความต้องการเสพยาเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้มีผลต่อร่างกายและจิตใจ มีการแสดงออกทั้งร่างกายและจิตใจ
๒. เมื่อต้องการหยุดเสพ จะมีอาการทางร่างกายและจิตใจเกิดขึ้น เรียกว่า อาการขาดยา ซึ่งอาการขาดยาของสารเสพติดแตกต่างกันไปอาการขาดยาเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คน
ที่อยากหยุดยาเสพติด ไม่สามารถหยุดเสพได้ ต้องเพิ่มขนาดของยาที่เสพมากขึ้นเรื่อยๆ
๓. ผู้ที่ติดสารเสพติด มักจะสูญเสียเวลาไปกับพฤติกรรมที่เกี่ยวโยงกับสารเสพติด เช่น บางรายอาจเสียเวลาไปกับการเสาะหาสารเสพติด มีอาการอยากหรือหิวยาเมื่อขาดยา
๔. ผู้ติดสารเสพติดมักมีความต้องการจะเลิกเสพสารเสพติดอยู่บ่อยๆ แต่มักทำไม่สำเร็จ หรือบางคนเลิกเสพไป ก็มักจะกลับมาเสพใหม่
๕. ผู้ติดสารเสพติดจะมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงในทางลบ ไม่ว่าจะทางด้านสังคม อาชีพการงาน ด้านครอบครัว เพราะชีวิตส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปกับเรื่องสารเสพติด
![]() ![]() |
ความรุนแรง
![]() ![]() |
ความรุนแรง หมายถึงการใช้วาจา กำลัง โดยเจตนาเพื่อข่มขู่ คุกคาม หรือการลงมือกระทำด้วยตนเอง กลุ่มคนหรือชุมชน มีผลต่อตนเองและต่อผู้อื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ เสียชีวิต ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งร่างกาย จิตใจ หรือทำให้ผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะยากลำบาก เช่น การถูกลวนลามทางเพศ การฆ่าตัวตาย การฆาตกรรม เป็นต้น
องค์ประกอบหลักในการใช้ความรุนแรง
๑.ปัจจัยนำเข้า (
Input ) หมายถึง ความจงใจที่จะทำให้เกิดผลของการกระทำสามารถแสดงในรูปแบบ
- Intentional
Physical Porce
- Sexual
- Psychological
๒. เหยื่อ ( Victim
) หมายถึง ผู้ถูกกระทำ ซึ่งมีหลายระดับ ได้แก่
- รายบุคคล( Person/Individual
- กลุ่มคน ( Group/Interpersonal
- ชุมชน( Community
)
- สังคม ( Societal
)
๓. ผลลัพธ์ ( Results
) หมายถึง ผลจากการกระทำที่เกิดจากความจงใจที่มีต่อเหยื่อแสดงออกในรูปแบบของ
- บาดเจ็บ( Injury
)
- เสียชีวิต(
Death )
- ป่วยทางจิตใจ (
Psychological harm )
-รักษาเรื้อรัง(
Maldevelopment )
ผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำ
๑.เด็กที่ถูกกระทำทารุณกรรมจะมีปัญหาสุขภาพจิตตามมาซึ่งอาจทำให้เป็นอุปสรรคในการเจริญเติบโต
ไม่เหมาะสมกับวัย กลายเป็นผู้พิการ ขาดสารอาหาร และกลายเป็นปัญหาภาระของสังคมต่อไป
๒. ประสบการณ์ของเด็กที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต มีอาการหวาดผวา มีพัฒนาการทางร่างกายช้า มีปัญหาทางการเรียนตามมา
๓.เด็กที่ถูกทำร้ายหรือตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว
๔. เด็กที่ถูกล่วงเกินทางเพศบางรายจะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ
และพยายามที่จะทำกับคนอื่นอย่างที่ตนถูกกระทำ
๕. เด็กที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรง หรือเคยพบเห็น เหตุการณ์รุนแรง จะเกิดการเรียนรู้ต้นแบบการแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงและเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ
๖. ผู้หญิงที่๔กกระทำรุนแรงทางด้านร่างกายและทางเพศจะได้รับบาดเจ็บ บางรายพิการหรือถึงขั้นเสียชีวิต
๗. ผู้หญิงที่ถูกกระทำทารุณกรรมจะมีผลกระทบทางด้านจิตใจ คือ สูญเสียความมั่นใจ อับอาย กลัวสังคม ไม่ยอมรับมีความกดดัน เครียด หวาดผวา บางรายถึงขั้นเสียสติถ้าถูกกระทำซ้ำๆ
การป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและสังคมเป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ครอบครัวสงบสุข และสังคมน่าอยู่ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตด้วย ดังนี้ ๑. พยายามลดความขัดแย้งต่อกัน ให้อภัยกัน รู้จักการผ่อนหนักผ่อนเบา และยืดหยุ่นต่อกัน รู้หลักการปรับความเข้าใจกันด้วยสันติวิธี
๒. หากมีปัญหาการทำร้ายร่างกายบุคคลในครอบครัวเป็นประจำควรไปปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง
๓. ลบล้างค่านิยมที่ผิดๆ เช่น สามีทำร้ายภรรยาเป็นเรื่องปกติ ความรุนแรงเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นต้น หากถูกทำร้ายควรแจ้งความดำเนินคดี เพื่อป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีก
๔. ควรมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวให้มาก ขยันทำมาหากิน ไม่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ไมเล่นการพนัน ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เสพสารเสพติด ไม่ประพฤติตนนอกใจ โดยสามีภรรยาต้องรักและซื่อสัตย์ต่อกัน
๕. เลี้ยงลูก ดูแล พูดคุยกันอย่างมีเหตุผลไม่ใช้ความรุนแรงต่อเด็ก ให้คิดว่าเด็กก็มีชีวิตจิตใจ และไม่ต้องการความรุนแรง
๖. ใช้หลักธรรมทางศาสนาที่ตนเองนับถือกล่อมเกลาจิตใจเป็นคนใจเย็น มีความรู้สึกถึงผิดชอบชั่วดีอยู่เสมอ
![]() ![]() |
Recent Clients
Recent News
11 JUN 07Headline
Vestibulum vitae enim sed sapien elementum blandit. Vestibulum vel quam. Morbi tincidunt suscipit . . .
» Read More